ด่วนปิดหมอชิต!กู้ระเบิดซุกรถทัวร์
ด่วน!พบวัตถุระเบิดซุกใต้ท้องรถราชสีมาทัวร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ191-หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด สั่งปิดหมอชิตรุดกู้ระทึก
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พ.ต.ต.พัดธงทิว ดามาพงศ์ สว.งานสายตรวจ 3 บก.สปพ.
ได้รับแจ้งจาก น.ส.อนงค์ ดีจันทึก อายุ 29 ปี
พนักงานประจำรถของบริษัทราชสีมาทัวร์ จำกัด
ว่าพบกระเป๋าต้องสงสัยเก็บอยู่ใต้ท้องรถทัวร์ของบริษัท
จอดอยู่ที่ลานจอดรถจุดรวมพลของสถานีขนส่งหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 6
แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภานุรัตน์ หลักบุญ
พ.ต.อ.ณภัทร จุลละบุษปะ พ.ต.อ.สุมิตร คุณานุคุณ รอง ผบก.สปพ. เจ้าหน้าที่
บก.สปพ.และกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บช.น.
ที่เกิดเหตุเป็นชานชาลาหมายเลข 59 ของสถานีขนส่งหมอชิต 2 พบรถร่วม บขส. วิ่งระหว่างกรุงเทพ-นครราชสีมา สีฟ้า-ขาว หมายเลขข้างรถ 21-124 หมายเลขทะเบียน 10-4810 นครราชสีมา จอดอยู่ โดยมีกระเป๋าเดินทางสีดำใบใหญ่ 1 ใบ วางอยู่บนพื้นข้างรถ เจ้าหน้าที่จึงกันพื้นที่ห้ามประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้รัศมี เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตราย และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกขึ้น จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบหมอนใบใหญ่สีขาว 2 ใบ วางอยู่ เมื่อเปิดออกดูพบ อาวุธปืนอาก้าพับฐาน 1 กระบอก กระสุนปืนอาก้า จำนวน 209 นัด ระเบิดสังหารบุคคล 15 ลูกประกอบด้วย ระเบิดชนิด เอ็ม 67 จำนวน 2 ลูก ระเบิดชนิดเอ็ม 61 จำนวน 2 ลูก ระเบิดชนิดเอ็ม 26 จำนวน 3 ลูก ระเบิดชนิดเอ็มดี 82 จำนวน 1 ลูก ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดเอ็ม 14 จำนวน 4 ลูก ระเบิดขว้างชนิดไทด์ 67 จำนวน 2 ลูก และระเบิดขว้างชนิดไทด์ 82.2 จำนวน 1 ลูก ทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน จึงเก็บไว้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวน น.ส.อนงค์ ให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกันได้วิ่งรับผู้โดยสารมาจาก จ.นครราชสีมา เพื่อมาส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต2 เมื่อวิ่งมาถึงบริเวณอนุสรณ์สถาน ย่านดอนเมือง ก็พบรถของบริษัทเดียวกันที่วิ่งมาก่อนหน้า หมายเลขข้างรถ 21-77 จอดเสียอยู่ คนขับรถจึงจอดรถแล้วรับถ่ายผู้โดยสารมาพร้อมสิ่งของ โดยเห็นผู้ต้องสงสัยเป็นชาย อายุประมาณ 30-35 ปี สูงประมาณ 170-175 เซนติเมตร ผิวดำแดง ผมสั้นเกรียน สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงขายาว มาคนเดียวและให้เอากระเป๋าดังกล่าวใส่ไว้ที่เก็บกระเป๋าใต้ท้องรถ เมื่อขึ้นรถมาชายคนดังกล่าวก็เดินไปนั่งอยู่ที่เบาะหลังสุดด้านซ้าย จึงสอบถามว่าจะลงที่ไหน ชายดังกล่าวบอกว่าจะลงที่หน้าวัดเสมียนนารี จึงได้บอกว่ารถไม่จอดต้องมาลงที่หมอชิต ชายดังกล่าวก็ไม่พูดอะไร พอมาถึงที่สถานีหมอชิตชายดังกล่าวก็รีบเดินลงจากรถหายไปทันทีจึงเล่าให้คน ขับรถฟังก่อน ช่วยกันยกกระเป๋าดังกล่าวออกมาไว้ที่พื้นเนื่องจากเกรงว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมาย อยู่ข้างใน แล้วรีบแจ้งเจ้าหน้ามาตรวจสอบ
พ.ต.ต.พัดธงทิว กล่าวว่า ทางชุดสืบสวน บก.สปพ. ได้รับรายงานมาว่าจะมีการขนอาวุธสงครามมาจาก จ.นครราชสีมา เข้ามากรุงเทพฯในช่วงวันหยุดยาว จึงจัดกำลังติดตามหาข่าว จนทราบว่าช่วงเช้าที่ผ่านมาคนร้ายได้นั่งรถจากจ.นครราชสีมาของ บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด เลขข้างรถ 21-77 จึงนำกำลังซุ่มรออยู่ที่หมอชิต แต่ปรากฏว่าเมื่อรถดังกล่าววิ่งมาถึงช่วงอนุสรณ์สถาน ย่านดอนเมืองรถเกิดเสีย ทำให้ต้องมีการถ่ายผู้โดยสารมาขึ้นรถของ น.ส.อนงค์ เพื่อเข้ามาที่หมอชิต แต่เมื่อมาถึงหมอชิตปรากฏว่า กลับไม่พบผู้ต้องสงสัยมีเพียงกระเป๋าเดินทางเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะไหวตัวหลบหนีไปก่อน หรือไม่ได้ขึ้นรถคันดังกล่าวมาจากอนุสรณ์สถาน ซึ่งฝ่ายสืบสวนตรวจสอบข้อมูลอยู่
พ.ต.ต.พัดธงทิว กล่าวต่อว่า สำหรับปืนและระเบิดที่พบนั้นอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน คาดว่าคนร้ายซื้อมาจากชายแดนเพื่อนำมาขายต่อเอากำไรอีกทอดหนึ่งให้กับพวกที่ ชอบสะสมของพวกนี้ โดยมีคนมารอรับอยู่ที่สถานีขนส่งหมอชิต2แต่มาถูกตรวจพบก่อนจึงหลบหนีไปและ ทิ้งกระเป๋าเอาไว้ หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาเส้นผม ลายนิ้วมือแฝงและวัตถุพยานอย่างอื่นเพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้ และในวันที่ 6 ส.ค. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. จะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ บช.น.อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง.
ขอบคุณข่าวจาก: http://www.dailynews.co.th
ที่เกิดเหตุเป็นชานชาลาหมายเลข 59 ของสถานีขนส่งหมอชิต 2 พบรถร่วม บขส. วิ่งระหว่างกรุงเทพ-นครราชสีมา สีฟ้า-ขาว หมายเลขข้างรถ 21-124 หมายเลขทะเบียน 10-4810 นครราชสีมา จอดอยู่ โดยมีกระเป๋าเดินทางสีดำใบใหญ่ 1 ใบ วางอยู่บนพื้นข้างรถ เจ้าหน้าที่จึงกันพื้นที่ห้ามประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้รัศมี เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตราย และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกขึ้น จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบหมอนใบใหญ่สีขาว 2 ใบ วางอยู่ เมื่อเปิดออกดูพบ อาวุธปืนอาก้าพับฐาน 1 กระบอก กระสุนปืนอาก้า จำนวน 209 นัด ระเบิดสังหารบุคคล 15 ลูกประกอบด้วย ระเบิดชนิด เอ็ม 67 จำนวน 2 ลูก ระเบิดชนิดเอ็ม 61 จำนวน 2 ลูก ระเบิดชนิดเอ็ม 26 จำนวน 3 ลูก ระเบิดชนิดเอ็มดี 82 จำนวน 1 ลูก ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดเอ็ม 14 จำนวน 4 ลูก ระเบิดขว้างชนิดไทด์ 67 จำนวน 2 ลูก และระเบิดขว้างชนิดไทด์ 82.2 จำนวน 1 ลูก ทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน จึงเก็บไว้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวน น.ส.อนงค์ ให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกันได้วิ่งรับผู้โดยสารมาจาก จ.นครราชสีมา เพื่อมาส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต2 เมื่อวิ่งมาถึงบริเวณอนุสรณ์สถาน ย่านดอนเมือง ก็พบรถของบริษัทเดียวกันที่วิ่งมาก่อนหน้า หมายเลขข้างรถ 21-77 จอดเสียอยู่ คนขับรถจึงจอดรถแล้วรับถ่ายผู้โดยสารมาพร้อมสิ่งของ โดยเห็นผู้ต้องสงสัยเป็นชาย อายุประมาณ 30-35 ปี สูงประมาณ 170-175 เซนติเมตร ผิวดำแดง ผมสั้นเกรียน สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงขายาว มาคนเดียวและให้เอากระเป๋าดังกล่าวใส่ไว้ที่เก็บกระเป๋าใต้ท้องรถ เมื่อขึ้นรถมาชายคนดังกล่าวก็เดินไปนั่งอยู่ที่เบาะหลังสุดด้านซ้าย จึงสอบถามว่าจะลงที่ไหน ชายดังกล่าวบอกว่าจะลงที่หน้าวัดเสมียนนารี จึงได้บอกว่ารถไม่จอดต้องมาลงที่หมอชิต ชายดังกล่าวก็ไม่พูดอะไร พอมาถึงที่สถานีหมอชิตชายดังกล่าวก็รีบเดินลงจากรถหายไปทันทีจึงเล่าให้คน ขับรถฟังก่อน ช่วยกันยกกระเป๋าดังกล่าวออกมาไว้ที่พื้นเนื่องจากเกรงว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมาย อยู่ข้างใน แล้วรีบแจ้งเจ้าหน้ามาตรวจสอบ
พ.ต.ต.พัดธงทิว กล่าวว่า ทางชุดสืบสวน บก.สปพ. ได้รับรายงานมาว่าจะมีการขนอาวุธสงครามมาจาก จ.นครราชสีมา เข้ามากรุงเทพฯในช่วงวันหยุดยาว จึงจัดกำลังติดตามหาข่าว จนทราบว่าช่วงเช้าที่ผ่านมาคนร้ายได้นั่งรถจากจ.นครราชสีมาของ บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด เลขข้างรถ 21-77 จึงนำกำลังซุ่มรออยู่ที่หมอชิต แต่ปรากฏว่าเมื่อรถดังกล่าววิ่งมาถึงช่วงอนุสรณ์สถาน ย่านดอนเมืองรถเกิดเสีย ทำให้ต้องมีการถ่ายผู้โดยสารมาขึ้นรถของ น.ส.อนงค์ เพื่อเข้ามาที่หมอชิต แต่เมื่อมาถึงหมอชิตปรากฏว่า กลับไม่พบผู้ต้องสงสัยมีเพียงกระเป๋าเดินทางเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะไหวตัวหลบหนีไปก่อน หรือไม่ได้ขึ้นรถคันดังกล่าวมาจากอนุสรณ์สถาน ซึ่งฝ่ายสืบสวนตรวจสอบข้อมูลอยู่
พ.ต.ต.พัดธงทิว กล่าวต่อว่า สำหรับปืนและระเบิดที่พบนั้นอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน คาดว่าคนร้ายซื้อมาจากชายแดนเพื่อนำมาขายต่อเอากำไรอีกทอดหนึ่งให้กับพวกที่ ชอบสะสมของพวกนี้ โดยมีคนมารอรับอยู่ที่สถานีขนส่งหมอชิต2แต่มาถูกตรวจพบก่อนจึงหลบหนีไปและ ทิ้งกระเป๋าเอาไว้ หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาเส้นผม ลายนิ้วมือแฝงและวัตถุพยานอย่างอื่นเพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้ และในวันที่ 6 ส.ค. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. จะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ บช.น.อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง.
ขอบคุณข่าวจาก: http://www.dailynews.co.th